40 ยังแจ๋ว วัยเก๋าไม่ยอมแก่
คิดตรึกตรองอยู่นานว่าจะเขียนเรื่องนี้ดีมั๊ย ข้อแรกไม่อยากให้ใครรู้อายุจริง ทั้งๆ ที่มันก็ไม่มีอะไรในกอไผ่ (ด้วยตำแหน่งหน้าที่การงาน หลายคนมักเดาว่าผมน่าจะแก่กว่านี้ แต่ก็มักทายให้ดูอ่อนกว่าวัยเพื่อเป็นการรักษาน้ำใจ) ข้อสองหน้าตาเราก็แบบบ้านๆ ไม่ได้หล่อเหลาถึงขั้นจะเป็นนายแบบได้ การเอาหน้าตามาโชว์อาจทำให้ขายหน้ามากกว่าได้หน้า (มาคิดอีกที การเป็นคนหน้าตาธรรมดามันก็อาจเป็นจุดขายนะเพราะสามารถเข้าถึงคนส่วนใหญ่ได้ดีกว่า แม้เหล่าบรรดานายแบบทั้งหลายเขาล้วนมีของดีมาแต่กำเนิด แต่ที่เห็นลงตามปกนิตยสารอยู่เป็นประจำนั้นก็ผ่านการทำศัลยกรรม หรือไม่ก็ได้รับ Photoshop ลบริ้วรอยมาด้วยกันเกือบทั้งนั้น) ข้อสามเดี๋ยวจะหาว่าแอบขายของ เปิดรับสมัครดาวน์ไลน์ (ผมผ่านการลองผิดลองถูกมาตั้งเยอะ ที่คัดมาโชว์นี่คือใช้จริง ใช้จัง และใช้มานานแล้วด้วย ไม่ได้ค่าจ้างต่อการเชียร์แบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งแต่อย่างใด) ฉะนั้นสิ่งที่คุณจะได้อ่านต่อไปนี้ ขอให้สบายใจได้ว่า
- ผมไม่ได้ชักชวนให้คุณมาทำอาชีพขายตรง เพราะผมไม่ถนัดงานแนวนี้
- ผมไม่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ของแบรนด์เหล่านี้ (แต่อาจได้เป็นในอนาคต 555) ที่ผมเชียร์เพราะมันใช้ได้ผลกับผม ไม่ได้รับเงินค่าจ้างในการช่วยดันโพสต์แม้แต่สตางค์แดงเดียว
- และที่สำคัญผมไม่ได้ต้องการอยากดังด้วยการเอาหน้าออกสื่อ ขอใช้ความสามารถเท่าที่มีทำมาหากินด้วยความเจียมเนื้อเจียมตัวต่อไป
สิ่งที่ผมจะนำมาเล่าและแชร์ถือเป็นประสบการณ์ส่วนบุคคล สามารถลอกเลียนแบบได้ ถ้าคิดว่ามันจะใช้ได้ผลกับคุณเช่นกัน (ปอ ลอ การลงทุนปรับหน้าตาชะลอความแก่นั้นมีความเสี่ยง โปรดพิจารณาและปรึกษาแพทย์ให้ดีก่อนตัดสินใจทำศัลยกรรม)
อะไรที่ทำให้คุณแก่เกินวัย
คุณเคยคิดบ้างไหมว่าอะไรทำให้คุณแก่เกินกว่าวัย บางคนบอกว่าความเครียดจากการทำงาน อาหารการกินที่ไม่ถูกสุขลักษณะ การออกกำลังกายที่ไม่สม่ำเสมอ การนอนที่ไม่เพียงพอ หรือรวมไปถึงการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ทำให้เกิดการระคายเคือง ที่พูดมาทั้งหมด ถูกทั้งหมด เพียงแต่ไม่ใช่ทั้งหมดที่ทำให้เราแก่ไปตามๆ กัน เพื่อให้เห็นภาพชัดยิ่งขึ้น โดยส่วนตัวผมคิดว่าปัจจัยหลักๆ เหล่านี้ที่ทำให้คนเราดูแก่ แก่ และแก่ ได้แก่
- พันธุกรรม (30%): เคยสังเกตมั๊ยครับว่า ทำไมบางคนผิวดี๊ๆ ตากแดดยังไงก็ไม่ดำ รูขุมขนก็เล็ก ผิวงี้เนียนไม่เป็นมันเงา เรื่องนี้แข่งกันไม่ได้จริงๆ อย่างน้อยๆ คุณควรจะรู้ว่าคุณเป็นคนผิวธรรมดา ผิวแห้ง ผิวมัน หรือ ผิวผสม ในเมื่อเราไม่สามารถเลือกผิวของเราเองได้ เราควรจัดการดูแลมันให้สมฐานะ ไม่ให้โทรมกว่าที่มันควรจะเป็น (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับสภาพผิวแต่ละชนิดได้ที่นี่ครับ)
- สภาพแวดล้อม (10%): คนที่ทำงานกลางแดดย่อมมีใบหน้าที่กร้านด่างดำได้มากกว่าคนที่ทำงานในที่ร่ม คนที่อยู่ในเมืองต้องเจอกับสภาพฝุ่นควันและมลพิษ ย่อมมีสุขภาพผิวที่แย่กว่าคนในชนบทที่อยู่ท่ามกลางขุนเขาและเงาน้ำ
- ไลฟ์สไตล์ (40%): เรื่องนี้สำคัญมากๆ เพราะมันเริ่มต้นจากการที่คุณดูแล ปรนนิบัติตัวเอง ทั้งภายนอกและภายใน การทำงาน การกิน การดื่ม การสูบบุหรี่ การออกกำลังกาย รวมไปถึงการนอนล้วนมีผลต่อความแก่ชราด้วยกันทั้งสิ้น
- การใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวหน้าและร่างกาย (20%): บางทีเราก็ฝากความหวังไว้ที่ยากิน วิตามิน รวมถึงผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมากไปหน่อย ถ้าเราสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวหน้าและร่างกาย รวมถึงการปรับไลฟ์สไตล์และสภาพแวดลอมควบคู่กันไปด้วย การชะลอความแก่ก็จะเห็นผลได้ชัดเจนยิ่งขึ้นครับ
เคล็ดลับชะลอความแก่
LOVE, PLAY, SLEEP, KEEP FIT with FINE FOOD, GOOD MOOD, COLD CLEAN FACE, MAKE YOUR DAY with GOOD VITAMINS
เคล็ดลับนี้ท่องมาเป็นธีม จะได้จำแม่นๆ ลองมาดูความหมายแต่ละตัว ว่าประกอบด้วยอะไรบ้าง
- เลือกทำงานที่ตัวเองชอบ (LOVE what you do): คือถ้าเราได้ทำงานที่เรารัก เราก็จะ Enjoy กับมันโดยที่เราไม่รู้สึกเครียดไปกับการทำงาน ทีนี้มันก็จะส่งผลให้เราเป็นคนยิ้มง่าย ร่าเริง
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ (PLAY regularly): การออกกำลังกายสม่ำเสมอจะทำให้ร่างกายแข็งแรงและรู้สึกผ่อนคลาย สารเอ็นโดรฟินที่หลั่งออกมาในขณะที่เราออกกำลังกายจะทำให้เรามีความสุข ถ้าเป็นไปได้ควรออกกำลังกายให้ได้ 3 ครั้ง/อาทิตย์ ครั้งละอย่างน้อย 30 นาทีขึ้นไป ถ้าคุณอยากผอมให้เน้นวิ่งในตอนเช้า ถ้าคุณอยากบึ๊กให้เล่นเวทในช่วงบ่ายๆ เย็นๆ
- หลับให้ลึก (SLEEP deep): ใครที่เป็นคนหลับง่ายถือว่ามีบุญนะ เพราะการหลับทำให้ร่างกายได้พักผ่อนเต็มที่ เราไม่จำเป็นต้องแข่งกันหลับตามจำนวนชั่วโมง แต่ขอให้แต่ละชั่วโมงในการหลับเป็นชั่วโมงคุณภาพของการนอน กรุณาหลีกเลี่ยงการเอาโทรศัพท์มือถือไว้ข้างหมอน (รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหลายที่ส่งคลื่นรบกวนการนอน) พยายามปรับคลื่นสมองจากเบต้า (Active) ให้เป็นเธต้า (Relax) ด้วยการทำกิจกรรมเบาๆ ก่อนนอน เช่นอ่านหนังสือ ฟังเพลง สวดมนต์ ไม่ใช่เล่น Facebook หรือดูหนัง Action ถ้าใครใส่พวก Wearable Device เช่น Jawbone UP, Fitbit มันจะช่วยจับสถานะการหลับของเราด้วยว่าเราหลับได้เต็มอิ่มขนาดไหนในแต่ละวัน อ้อลืมบอกไป ช่วงเวลาที่ Growth Hormone ทำงานได้ดีที่สุดอยู่ในช่วง 4 ทุ่มถึงตี 2 แม้ส่วนสูงจะไม่ได้เพิ่มขึ้น จะฮอร์โมนตัวนี้จะช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ไม่อยากแก่ ห้ามนอนดึก
- ทานอาหารที่มีประโยชน์ (KEEP FIT with FINE FOOD): ในบรรดาทุกเรื่อง เรื่องนี้นับเป็นเรื่องที่ยากที่สุดสำหรับผม ผมเชื่อว่าหลายคนมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับชนิดของอาหารที่เราควรทานอยู่แล้ว เพียงแต่อาหารจานโปรดมักจะเป็นตัวทำลายสุขภาพ เช่นของทอด เค้ก เบเกอรี่ รวมแม้กระทั่งกาแฟที่อุดมไปด้วยน้ำตาลและครีมเทียม สิ่งที่พอช่วยคุณได้คือพยายามทานผัก ผลไม้ และดื่มน้ำให้ได้เยอะๆ ในแต่ละวัน (ประมาณ 2-3 ลิตรขึ้นไป)
- อารมณ์ดีเพราะมีความสุข (GOOD MOOD): แต่ก่อนไม่ค่อยเข้าใจ เดี๋ยวนี้รู้ซึ้งเลยว่าการที่เราเป็นคนไม่เจ้าคิดเจ้าแค้น จงเกลียดจงชังใคร รวมถึงไม่คาดหวังอะไรให้มันมากนัก ทำให้เรามีความสุขขึ้นเยอะเลย ใครที่ชอบโพสต์ข้อความหยาบคาย เกรียนด่าคนเขาไปทั่ว ขอให้เลิกเลยครับ เพราะนิสัยเหล่านี้จะชักนำให้คุณเจอกับคนประเภทนี้ไม่รู้จบ เคยสังเกตไหมว่าคนกลับจากคอร์สปฏิบัติธรรมหลายคน กลับมางี้ใบหน้าผ่องเชียว แทบจะไม่ต้องทาครีมใดๆ ช่วย
- ดูแลผิวหน้าให้สะอาด (COLD CLEAN FACE): การดูแลผิวหน้าให้สะอาด ไม่ได้หมายความว่าให้ล้างหน้าตลอดเวลา แค่วันละครั้ง-2 ครั้งก็พอ ควรใช้โฟมล้างหน้าแบบอ่อนๆ ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันหรือแอลกอฮอล์ ถ้าเป็นไปได้ให้ใช้น้ำเย็นลูบหน้าแทนน้ำอุ่น รูขุมขนจะได้ไม่กว้างเกิน และอย่าถูแรงๆ เพราะจะทำให้ใบหน้าเกิดริ้วรอย
- บำรุงผิวด้วยวิตามิน (MAKE YOUD DAY with GOOD VITAMINS): พออายุย่างเข้าเลข 3 ร่างกายก็จะเริ่มขาดสารอาหารบางชนิด ควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงที่เข้ากับสภาพผิว (เลือกใช้ยี่ห้อที่มันไม่ระคายเคือง หรือผสมกลิ่นน้ำหอมมากไป) และทานอาหารเสริมบ้าง (ทานเท่าที่จำเป็น ถ้าเป็นไปได้ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อย่าสุ่มสี่สุ่มห้าทานอาหารเสริมประเภท ใหญ่ ยาว แข็ง ทน เพราะยิ่งถ้าสรรพคุณมันแรงมากเท่าไหร่ ให้เตรียมใจไว้เลยว่าอาจมีผลข้างเคียง)
เปิดกรุสมบัติเครื่องประทินผิว
เดี๋ยวนี้คุณผู้ชายทั้งหลายก็ห่วงสวย เฮ้ยไม่ช่าย ห่วงหล่อ ไม่แพ้คุณผู้หญิงเหมือนกัน สารภาพว่ากว่าผมจะมาทำความรู้จักกับเครื่องสำอางทั้งหลาย อายุก็ปาเข้าไป 30 กว่าแล้ว รู้ทั้งรู้ว่าหน้ามัน มีสิว ผดผื่นขึ้นเต็มหน้าผาก แต่ก็ไม่ค่อยชอบใช้เครื่องสำอาง จนกระทั่งถูกทักว่าหน้าเหี่ยว โทรม ดูสูงวัย เหมือนคนอดหลับอดนอนมา 10 วัน เคยไปหาหมอตามคลีนิคมาเหมือนกัน พอยาหมด สิวก็ขึ้นต่อ แทบจะไม่มีช่วงไหนเลยใน 30 ปีที่สามารถอวดผิวหน้าได้อย่างเต็มภาคภูมิ เพราะถ้าไม่ดำคล้ำ ก็มัน ไม่มันก็มีผื่น แถมเป็นคนที่มีฟันหน้ายื่นอีก กว่าจะตัดสินใจใส่เหล็กดัดฟัน อายุก็ปาเข้าไป 34-35 เข้าไปแล้ว นี่แหละน้า ที่เขาว่า รู้อะไรไม่เท่ารู้งี้ ถ้าดูแลรูปร่างหน้าตาตั้งแต่วัยขบเผาะ อาจได้ขึ้นปกนิตยสารไปหลายเล่มแล้ว หึๆ (อันนี้พูดเล่นนะครับ)
ผมมีข้อแนะนำสักเล็กน้อยสำหรับชายไทยทั้งหลายที่ไม่เคยเข้าใจว่าโฟมล้างหน้าราคาถูกมันต่างกับเครื่องสำอางเคาน์เตอร์แบรนด์ยังไง แล้วยี่ห้อครีมบำรุงผิวที่โฆษณากันปาวๆ ว่าเห็นผลภายใน 7 วันนี่มันได้ผลจริงรึเปล่า เพื่อความปลอดภัยในชื่อเสียงและทรัพย์สิน ขออนุญาตไม่ระบุยี่ห้อผลิตภัณฑ์ที่เคยผิดหวังมาในอดีต อย่าหาว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลยนะครับ ของถูกและดีไม่ค่อยมีอยู่จริง ประเภทหลอดละไม่กี่บาท แถมยังมีคูปองลดราคาอีก อย่างนี้ให้ระวังให้ดี ส่วนผสมบางชนิดไม่ค่อยปลอดภัยกับผิวหน้ามนุษย์เท่าไหร่ เรื่องนี้ผมไม่ขอยุ่ง (ถ้าอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาปรึกษาผู้ช่วยชาญด้าน Anti-aging โดยตรงนะครับ)
ส่วนตัวเคยชอบผลิตภัณฑ์ของ Biotherm for Men นะครับ ลองใช้มาเกือบทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ เป็นลูกค้าชั้นดี สะสมแต้มจนแลกของรางวัลไปได้หลายตลบ ตอนนี้เหลือตัวเดียวที่ยังคงใช้อยู่บ้างในปัจจุบันคือ Biotherm Homme Total Perfector (Skin Optimizing Moisturizer) ใครที่เป็นแฟน Biotherm แล้วอยากดูว่าจะบำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์ตัวไหนให้ดูตามชาร์จนี้เลยครับ
อีกยี่ห้อนึงที่ชื่นชอบไม่แพ้กันคือ Lab Series for Men ตัวที่แนะนำเป็นพิเศษคือ Multi-Action Face Wash ตัวนี้ใช้ทำความสะอาดผิวหน้ามีเม็ดบีดส์ที่ช่วยสครับหน้ากำจัดเซลล์ผิวหน้าที่ตายแล้วออกด้วย (ควรใช้สลับกับโฟมล้างหน้าที่มีความเบาบาง ไม่งั้นผิวหน้าจะบางเกินไป ไม่เหมาะสำหรับคนมีสิวเพราะอาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง)
ทีนี้ลองมาดูเช็ตผลิตภัณฑ์ที่ผมใช้เป็นประจำในปัจจุบันว่ามีอะไรกันบ้าง
ผมเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของ Taya Skincare ทั้ง 3 ตัว เพราะว่าผลิตภัณฑ์ทุกตัวเป็นสูตรแบบไม่ใส่น้ำหอม สี และแอลกอฮอล์ที่ทำให้ผิวแห้งตึงและเกิดการระคายเคือง ที่สำคัญยังรักษาสภาพความเป็นกรดด่าง (PH Balance) ให้ใกล้เคียงกับสภาพผิวตามธรรมชาติอีกด้วย พอหันมาใช้ 3 ตัวนี้ ก็เก็บแบรนด์อื่นขึ้นหิ้งเกือบหมดเลย ข้อดีสำหรับคุณผู้ชายทั้งหลายคือไม่ต้องคิดหลายตลบ ใช้หลายตัวให้ปวดหัวเหมือนคุณสุภาพสตรี มีแค่ 3 ตัวนี้จบทุกความต้องการ แถมยังง่ายต่อการพกพาเวลาออกเดินทางด้วยครับ
- Taya Gentle Skin Energizing Cleanser ตัวแรกเป็นวิปโฟมล้างหน้าเนื้อนุ่ม เพียงแค่ปั๊มออกมา 2 ฟอด ก็ใช้ล้างหน้าได้สะอาด สดชื่น ผิวหน้าไม่แห้งตึงเหมือนครีมหรือโฟมทั่วไปที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือสารฟอกขาวที่เป็นอันตรายต่อผิวหน้า
- Taya Ultimate Age Repair Serum เป็นเซรั่มสูตรเข้มข้นที่ช่วยต่อต้านริ้วรอยชนิดตื้นและลึก บีบออกมา 1 จึ๊ก ทาคู่กับมอยซ์เจอร์ด้วยเนื้อครีมอีกประมาณ 3 ส่วน ช่วยควบคุมไม่ให้ผิวหน้าแห้งหรือมันเกินไป
- Taya Day & Night Perfect Moisturizer เป็นมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ที่มีเนื้อเบา มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ เช่นน้ำมัน Omega-3, Omega-6 fatty acid ใช้ได้ทั้งเช้าและเย็น ไม่เหนียวเหนอะหนะ
นอกจากผลิตภัณฑ์ 3 ตัวหลักของ Taya Skincare แล้ว ผมยังเลือกใช้ตัวเทพๆ ในด้านอื่นเป็นบางโอกาสด้วย ก็อย่างที่เห็นในภาพ มีทั้ง Collagen, Facial Mud, UV sunscreen และ Aftersoon Cooling Gel อีกด้วย
- Dii Collagen Time Reversal เป็นคอลลาเจนสูตรพิเศษที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นแก่ผิวหน้า ไม่ทำให้เกิดอาการอุดตันจากการใช้สารเคมีเช่น Paraben หรือ Silicone ผมใช้ตัวนี้เพิ่มเข้าไปสำหรับการบำรุงผิวในช่วงก่อนนอน
- Epoch Glacial Marine Mud เป็นโคลนมาส์กหน้าที่นานๆ ใช้ที ประมาณ 1-2 เดือนครั้ง เพื่อช่วยเคลียร์สิ่งอุดตันใต้ผิวหน้า ตั้งแต่ใช้มาโคลนยี่ห้อนี้เวิร์คสุดละ มันทำให้ผิวหน้าดูกระจ่างใสและสะอาดล้ำลึก
- UNO Cool Sunscreen ตอนไปเที่ยวญี่ปุ่น แทบจะพลิกแผ่นดินหาเลยทีเดียว เพราะไม่รู้เขาจะเลิกผลิตไปแล้วรึเปล่า ส่วนใหญ่จะมีแต่ครีมกันแดดของ Shiseido ทั่วไป ตัวขายดีคือสีทอง แต่ล้างออกยากชะมัด ต้องยอมรับว่าหาครีมกันแดดที่ได้ผลดี บวกกับไม่ทำลายความชุ่มชื้นของผิวค่อนข้างยาก
- Nuskin Enhancer เป็นเจลว่านหางจรเข้ที่ใช้ทาหลังออกแดด หลายยี่ห้อในท้องตลาดมักมีส่วนผสมของน้ำหอม ยี่ห้อนี้นับว่าเวิร์คสุดเท่าที่เคยใช้มา ถ้าอยากให้เย็นชื่นใจ แนะนำให้เก็บไว้ในตู้เย็น ช่วยลดอาการไหม้และแดงของผิวได้เป็นอย่างดี
เนื่องจากผมไม่ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ว่ามานี้ซะด้วย ใครอยากสั่งซื้อ กรุณาติดต่อร้านค้าโดยตรงเลยนะครับ
Taya skincare : https://www.facebook.com/Taya.Skincare (ซื้อได้ทางออนไลน์ครับ)
Dii Wellness Med Spa: http://www.dii-divana.com/ (ซื้อได้ที่ Shop สาขา Central Embassy ครับ)
อาหารเสริมความหล่อ
พออายุมากขึ้น เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องหาอาหารเสริมวิตามินมาทานเพิ่ม ส่วนจะชี้นำว่าของยี่ห้อไหนดีนี่ไม่รู้มันจะผิดจรรยาบรรณมั๊ย เอาเป็นว่าผมขอเผยเฉพาะอันที่ผมทานอยู่ในปัจจุบัน ส่วนใครจะหาไปซื้อจากร้านขายยาร้านไหน หรือจากตัวแทนขายยี่ห้อไหนอันนี้ไม่ว่ากัน แต่อย่ามาบลั๊ฟกันด้วยการดิสเครดิตยี่ห้อคู่แข่งด้วยข้อมูลที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ด้วยผลงานวิจัย (ที่เป็นกลาง)
เหตุผลที่ต้องพูดดักล่วงหน้า เพราะทุกวันนี้มีคนขายอาหารเสริมเยอะเหลือเกิน แต่ละยี่ห้อใช้การตลาดนำได้อย่างน่าสะพรึงกลัว บางอันไม่ควรจะผ่าน อย. สคบ. ตชด. สตง. มาได้เลยนะ เพราะฉะนั้นถ้าไม่ต้องการเป็นเหยื่อทางการตลาด ควรศึกษาหาข้อมูลเปรียบเทียบจากหลายๆ แห่ง ไม่จำเป็นต้องเชื่อผมหรือใคร แต่ถ้าไม่แน่ใจจริงๆ ให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน (ที่ไม่ได้เป็นอัพไลน์ของ MLM ยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง) เพราะตัวยาบางชนิดจำเป็นต้องกำหนด dose ในการรับประทานด้วย
- Vitamin C: วิตามินซีถือเป็นวิตามินสามัญที่ผู้คนนิยมทาน คล้ายๆ กับยาสามัญประจำบ้าน โดยปกติแล้วร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินซีจากผักและผลไม้ต่างๆ อยู่แล้ว แต่เพราะเรารับประทานผัก/ผลไม้ในปริมาณที่ไม่มากเพียงพอ จึงจำเป็นต้องเสริมแร่ธาตุให้ร่างกายแข็งแรง dose ที่ผู้คนทั่วไปทานอยู่ที่ 200-500 มิลลิกรัมต่อวัน ไม่จำเป็นต้องทานในครั้งเดียว แนะนำให้ทานหลังอาหารเช้า แต่ถ้าต้องการเพิ่มเรื่องการชะลอความชราอาจต้องทาน dose ที่สูงขึ้น (ประมาณ 500-1,000 มิลลิกรัมต่อวัน) ข้อดีของวิตามินซีคือช่วยป้องกันหวัด มีสรรพคุณเหนือกว่าวิตามินหลายตัวตรงที่ละลายในน้ำได้ และสามารถถูกขับออกมาได้ทางปัสสาวะหากรับประทานในปริมาณที่เกินความจำเป็นของร่างกาย สำหรับคนที่ไม่ค่อยชอบทานแบบเม็ด เดี๋ยวนี้มันมีขายแบบเม็ดฟู่ผสมกับน้ำทานได้เลย (อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับวิตามินซีเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ)
- Vitamin B: สำหรับคนที่ใช้สมองในการทำงานเยอะ แนะนำให้ทานวิตามินบีเสริม เพราะมันจะช่วยบำรุงสมอง เสริมระบบความจำ เหมาะกับคนที่มักอยู่ในสภาวะเครียด (ใครอยากรู้ว่าวิตามินแต่ละเบอร์มันมีประโยขน์ต่อร่างกายยังไง อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ)
- Bio Zinc: ที่ผมทานซิงค์ก็เพราะว่าต้องการหยุดรั้งอาการผมร่วง คือสังกะสีมันมีสรรพคุณในการบำรุงเส้นผมและเล็บ นอกจากนี้ยังช่วยในด้านผิวพรรณ และสุขภาพของเพศชายด้วย ส่วนใครอยากรู้ว่ากินยาอะไรให้ผมไม่ร่วง อันนี้ต้องคุยหลังไมค์ เพราะส่วนใหญ่ยาที่หมอจ่ายให้จะมีผลต่อระดับฮอร์โมนในร่างกายด้วย (อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Zinc ได้ที่นี่ครับ)
- Co Q10: วิตามินตัวนี้นอกจากจะช่วยเรื่องหลอดเลือด และอัลไซเมอร์แล้ว ยังช่วยในเรื่องการชะลอความชราโดยตรงอีกด้วย โคคิวเท็นถือเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งที่ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายแม้ว่า FDA ในสหรัฐจะยังไม่ทำการรับรองก็ตาม ใครจะหา Co Q10 มาทานควรทราบด้วยว่าในท้องตลาดมี Co Q10 อยู่ 2 ประเภท แบบที่เป็น Ubiquinone (ชนิดนี้เป็นแบบที่ต้องผ่านการเผาผลาญก่อนการดูดซึมนำไปใช้) ส่วน Ubiquinol (ชนิดนี้สามารถดูดซึมได้โดยตรงและเห็นผลได้ชัดกว่า) ไม่ต้องแปลกใจว่า Co Q10 แต่ละยี่ห้อจึงมีราคาแตกต่างกันมาก ส่วนใหญ่จะเป็น Ubiqunone ซึ่งมีราคาถูกกว่า แต่ก็ได้ผลน้อยกว่า (อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Co Q10 ได้ที่นี่)
- Omega 3: ที่เรากิน Fish Oil หรือน้ำมันปลาก็เพราะเราอยากได้สรรพคุณจากการสกัดกรดไขมันจากปลาทะเลลึก นั่นก็คือ Omega-3 ทีนี้ใน Omega-3 มันก็ยังมีสารสองตัวที่ชื่อว่า EPA/DHA ปริมาณที่พอเหมาะสำหรับการบริโภคคือ EPA วันละ 720 มิลลิกรัม และ DHA วันละ 480 มิลลิกรัม คือสารนี้จะช่วยลดระดับคลอเรสเตอรอลและไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือด แถมยังช่วยเพิ่มปริมาณ HDL หรือไขมันดีในร่างกายด้วย ฉะนั้นถ้าจะซื้อ Fish Oil มาทาน ควรดูที่ฉลากด้วยว่ามีสารอาหารที่ว่านี้มั๊ย เพราะส่วนใหญ่จะมีแต่น้ำมัน แต่ขาดสารอาหาร (อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Omega-3 ได้ที่นี่)
- Multi Vitamin: พอเราเริ่มอายุมาก ร่างกายก็จะเริ่มขาดโน่นขาดนี่ นอกจากวิตามินซี บี และโอเมก้าแล้ว บางทีเรายังพบว่าขาดวิตามินตัวอื่นๆ ด้วย ตัวนี้เหมือนช่วยเสริมแบบเหวี่ยงแห ขออย่างละนิดละหน่อยให้ร่างกายไม่ต้องทำงานหนักเกินไป
- Probiotics: หลายคนอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นชื่อโปรไบโอติกส์เท่าไหร่ อธิบายง่ายๆ ก็คือมันเป็นแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่ช่วยในการย่อย หากใครที่เป็นคนทานโยเกิร์ต หรือนมเปรี้ยวอยู่แล้ว บางทีอาจไม่ต้องทานตัวนี้ก็ได้ (อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรไบโอติกส์ได้ที่นี่)
หวังว่าเรื่องราวที่นำมาเล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อหนุ่มวัยทำงานที่ไม่อยากมีรอยย่นตีนกาเต็มหน้าก่อนอายุ 40 ก่อนจะตัดสินใจหาอาหารเสริมมาบำรุง หรือซื้อเครื่องสำอางมาทาหน้า ควรหาข้อมูลเปรียบเทียบจากหลายแหล่ง
จบแล้วสำหรับ Health Issue ฉบับแรก เรื่องเคล็ดลับชะลอความแก่ ยังมีอีก 2 ฉบับที่ต้องขอใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูล นั่นคือเรื่องของผม (หมายถึงการป้องกันอาการหัวล้านได้หวี รวมถึงเทคนิคการเลือกทรงผมให้เข้ากับกะโหลกศีรษะและหน้าตา) และเรื่องการแต่งตัว (หมายถึงการขุดเสื้อผ้าในตู้ออกมาใส่ให้ดูดี สมกับรูปร่างและฐานะ) โปรดติดตามต่อได้ แต่คงไม่ใช่เร็วๆ นี้นะครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง
ผมเคยเขียนบทความนึงเกี่ยวกับการอ่านผลตรวจสุขภาพ การทำอย่างไรไม่ให้เป็นคนขี้แพ้ต่อโรคต่างๆ แถมยังเสริมเทคนิคเรื่องอาหารการกิน การออกกำลังกาย รวมถึงการนอนด้วยนะครับ คลิ๊กได้ที่ลิงค์นี้เลย สุขกายอยู่ได้ สุขใจอยู่ง่าย